| คุณหมอเส็งเป็นแพทย์ผู้มีประสบการณ์ กว่า 40 ปี คุณหมอเส็งคลุกคลีอบู่กับสมุนไพรมาตั้งแต่เด็ก เพราะเตี่ยและบรรพบุรุษเป็นหมอยาสมุนไพร | 
| มาจากเมืองจีน เริ่มฝึกฝนเป็นหมอเเมะกับเตี่ยตั้งแต่อายุ 18 ปี ซึ่งกว่าจะได้มานั่งตรวจคนไข้ด้วยตัวเอง ก็ต้องศึกษาเรื่องสมุนไพรชนิดต่างๆก่อน | 
| และก็เป็นลูกมือของเตี่ยในการปรุงยาสมุนไพร และรักษาคนไข้จนกระทั่งสามารถแมะคนไข้ได้ด้วยตัวเอง นั่นหมายความว่า คุณหมอเส็งมีประสบ | 
| การณ์มากถึง 54 ปี เลยทีเดียว หรือจะเรียกว่าตลอดทั้งชีวิต ของคุณหมอเส็งคลุกคลีอยู่กับสมุนไพรก็ว่าได้ แพทย์ทางเลือกและสมุนไพรเคล็ด | 
| ลับ ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงได้ไวขึ้น | 
| แพทย์ทางเลือกเป็นแนวทางการดูแลสุขภาพ และรักษาโรคที่มีประวัติยาวนานเป็นหลายร้อยปี ยกตัวอย่างเช่น แพทย์แผนไทย มีประวัติ | 
| ความเป็นมา ยาวนานกว่า 800 ปี แพทย์แผนจีนมีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 6,000 ปี ภูมิปัญญารวมถึงความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพ และ | 
| รักษาโรคมีมากมาย สะสมมายาวนาน รุ่นสู่รุ่น อีกทั้งเวลายังเป็นเครื่องพิสูจน์ที่ดีให้เราทราบว่า ศาสตร์เหล่านี้ ดูแลสุขภาพและรักษาโรค ได้ | 
| อย่างมีประสิทธิภาพ | 
| หลักการและวิธีการตรวจวินิจฉัยของแพทย์ทางเลือก แพทย์ทางเลือกจะใช้หลักของ ความสมดุลของร่างกายเป็นหัวใจสำคัญ ใจการดูแล | 
| สุขภาพ และรักาาโรค ซึ่งเป็นแนวทางที่เคลื่อนไหวไปตามธรรมชาติ โดยมีหลักการง่ายๆว่าร่างกายที่มีความสมบูรณ์แข็งแรง ย่อมอยู่บนพื้นฐาน | 
| ของความสมดุล โดยใช้สมุนไพรเข้าไปปรับสมดุลของร่างกายเพื่อให้สุขภาพแข็งแรง เมื่อสุขภาพแข็งแรงแล้ว ความเจ็บป่วยก็จะลดน้อยลงไปได้ | 
| เอง ยาสมุนไพรที่ใช้จะมีส่วนผสมของสมุนไพรธรรมชาติหลายชนิด ผสมกันอย่างเป็นสัดส่วนเพื่อเสริมฤทธิ์สมุนไพร และหักล้างพิษของสมุนไพร | 
| บางตัว เพื่อให้ได้ยาสมุนไพรที่เรียกว่า สมุนไพรตำรับ ไปใช้ในการรักษาโรค เรื้อรังชนิกต่างๆ สำหรับคนๆนั้น | 
| การตรวจวินิจฉัยโรคของแพทย์แต่ละแผนก็จะแตกต่างกันไป | 
| วิธีการตรวจวินิจฉัยของแพทย์แผนจีน | 
| การตรวจจับชีพจร(แมะ) เพื่อดูความหนักเบาความเร็วช้าของชีพจร รูปแบบของการเต้นชีพจร จะบอกได้ว่าร่างกาย อยู่ในสภาวะสมดุลหรือมีปัญ- | 
| หาที่อวัยวะใดหรือไม่ ตรวจดูจากอาการผิดปกติของร่างกาย เช่น สี ปริมาณของเลือด ประจำเดือน อาการเวียนศรีษะ ร้อนใน หนาวใน ปวดเอว | 
| ปวดขา ปวดหลัง มือเท้าเย็น ลักษณะดวงตา ลักษณะผวหนัง ลักษณะของลิ้น | 
| วิธีการตรวจวินิจฉัยแพทย์แผนไทย | 
| ตรวจดูด้วยสมาธิ วิธีการนี้อาจจะดูแปลกสำหรับคนทั่วไปอยู่สักหน่อยแต่มีจริง | 
| การตรวจดูอาการผิดปกติของร่างกาย เช่น เจ็บอก มีไข้ ปวดศรีษะ หนาวสั่น  กระหายนํ้า เป็นต้น(คล้ายคลึงกับแพทย์แผนจีน) | 
| ซึ่งการตรวจวินิจฉัยด้วยวิธีการเหล่านี้จะทำให้แพทย์ทราบว่า ต้องเริ่มจากตรงไหนก่อน แพทย์ก็จะทำการปรับสมดุลร่างกายของคนไข้ด้วยการใช้ | 
| ตำรับสมุนไพร จ่ายเป็นยาให้รับประทานในปริมาณและระยะเวลาที่เหมาะสมกับคาวมรุนแรงของโรคและอวัยวะของคนๆนั้น | 
| กระบวนการรักษาโรคแบบถูกต้องที่คนทั่วไปมองข้าม กระบวนการที่ถูกต้องควรมีลำดับตามนี้ | 
| 1-ปรึกษาแพทย์หรืออย่างน้อยก็เภสัชกร | 
| 2-แพทย์หรือเภสัชกรแนะนำให้ยา | 
| 3-ทานยาตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด | 
| วินิจฉัยถูก...รักษาถูก...กินยาถูก...สุขภาพดีขึ้น...คุ้มกับเงินที่จ่ายไป | 
| แต่สิ่งที่เห็นทำกันอยู่ประจำเป็นแบบนี้ | 
| 1-ปรึกษาเพื่อนหรือวินิจฉัยโรคเอง(โดยที่เพื่อนหรือตัวเองไม่ได้มีความรู้และเครื่องมือใดๆเลย) | 
| 2-หาซื้อยามาทานเอง | 
| 3-ทานยาผิดตัว ผิดปริมาณและระยาเวลา | 
| วินิจฉัยผิด...รับยาผิด...กินยาผิด...สุขภาพแย่ลง...เสียตังฟรี | 
| จากประเด็นดังกล่าวข้างต้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ตอนแรกที่มีปัญหาเราปรึกษาถูกคนไหม เพราะถ้าเราปรึกษาท่านผู้ชำนาญการแน่นอนว่า การวินิจ | 
| ฉัย ก็ค่อนข้างมั่นใจ ได้มากกว่าการถามเพื่อนที่ไม่มีความรู้เลย ถ้าเราได้รับการวินิจฉัยโรคและคำแนะนำที่ถูกต้อง ยาที่ใช้ ปริมาณหรือระยะเวลา | 
| ที่ต้องทานก็จะถูกต้อง ตามไปด้วย จริงไหมครับ | 
| นี้คือคำตอบว่าทำไมต้องเป็น หมอเส็ง | 
| 1-ตรวจหรือวินิจฉัยโรคด้วยตัวคุณหมอเส็งเอง | 
| 2-ปรุงยาเองซึ่งมีโรงงานผลิตยาเอง | 
| 3-มีประสบการณ์ในการรักษาที่มีคนยอมรับกันมา ยาวนาน | 
| ที่นี้ขึ้นอยู่กับท่านเองครับ....ท่านจะให้โรคร้ายรอยา หรือจะให้ยารอโรค....ตัดสินใจเองครับท่าน |